รูปภาพประกอบ |
กรมการขนส่งทางบก ตรวจสอบรถทะเบียน 1กภ 4437 คันที่มีข้อมูลในระบบแล้ว พบข้อมูลถูกต้องตรงกัน แนะ!! เจ้าของรถแจ้งความตำรวจ กรมฯ พร้อมร่วมตรวจสอบทันที เพื่อดำเนินการกับผู้กระทำความผิด ย้ำ!! กรมฯ มีระบบฐานข้อมูลทางทะเบียนชัดเจน ถูกต้อง ตรวจสอบได้เร็ว ยืนยัน!!! ทะเบียนรถไม่มีโอกาสที่จะซ้ำกัน เลขทะเบียนเดียวจะมีรถเพียงหนึ่งคันเท่านั้น
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงกรณีที่มีการแชร์ภาพในสื่อสังคมออนไลน์ว่า พบรถยนต์ยี่ห้อ Mitsubishi จำนวน 2 คัน มีสีรถและหมายเลขทะเบียนรถเดียวกันนั้น กรมการขนส่งทางบกตรวจสอบรถหมายเลขทะเบียน 1กภ 4437 คันที่ปรากฏข้อมูลในระบบแล้ว พบว่าข้อมูลหมายเลขตัวรถ เลขเครื่องยนต์ถูกต้องตรงตามฐานข้อมูลที่ปรากฏในระบบทะเบียนของกรมการขนส่งทางบก ในเบื้องต้นจึงได้ให้นายพิพัฒน์ ธนจีระสิทธิ์ ผู้ครอบครองรถที่จดทะเบียนถูกต้องได้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนไว้แล้ว สำหรับรถคันดังกล่าวนายพิพัฒน์ ธนจีระสิทธิ์ ได้ซื้อรถคันจากผู้ประกอบการเต็นท์รถ เกดวัน เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2559 โดยได้ทำสัญญาซื้อขายเรียบร้อยแล้วและอยู่ระหว่างดำเนินการจัดเข้าไฟแนนซ์กับธนาคารธนชาติ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2559 เวลา 20.55 น. นายพิพัฒน์ ธนจีระสิทธิ์ พบรถอีกคันที่เป็นรถชนิดเดียวกันและหมายเลขทะเบียนตรงกันที่ปั๊มตรงข้ามศูนย์อาหาร ถนนสาย 36 หมู่ 6 จังหวัดระยอง จึงนำมาสู่กระบวนการตรวจสอบยืนยันความถูกต้องของรถกับกรมการขนส่งทางบก สำหรับในส่วนของการตรวจสอบข้อมูลรถคันที่ 2 จากหมายเลขตัวรถพบว่าตรงกับรถหมายเลขทะเบียน กจ 1394 หนองคาย และตามภาพเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีไม่ใช่เอกสารที่ออกให้โดยกรมการขนส่งทางบก อาจเป็นรถที่ถูกโจรกรรมมาและนำมาปลอมแปลงเอกสารหลอกขายโดยกลุ่มมิจฉาชีพ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในระหว่างติดตามตัวผู้ครอบครองรถคันที่ 2 เพื่อเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายต่อไป
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการขนส่งทางบกยืนยันว่าระบบฐานข้อมูลทางทะเบียนทั่วประเทศได้มีการจัดทำระบบป้องกันการจดทะเบียนรถซ้ำซ้อนไว้แล้ว ดังนั้นรถหนึ่งคันต่อหนึ่งหมายเลขทะเบียนรถเท่านั้น ไม่มีโอกาสที่หมายเลขทะเบียนรถจะซ้ำซ้อนกันได้ และสำหรับเหตุการณ์ในลักษณะนี้ กรมการขนส่งทางบกพร้อมให้ความร่วมมือตรวจสอบข้อมูลของรถจากระบบฐานข้อมูลทางทะเบียนซึ่งมีความชัดเจน ถูกต้อง และตรวจสอบได้อย่างรวดเร็ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิด พร้อมทั้งแนะให้ประชาชนซื้อขายรถโดยนำรถเข้าตรวจสอบความถูกต้องทางทะเบียนทุกครั้ง โดยอย่าซื้อขายด้วยการโอนลอย ทั้งนี้ กรณีสวมทะเบียนปลอมอาจเกิดขึ้นกับการซื้อขายรถด้วยวิธีการโอนลอย ที่ผู้ซื้อไม่นำรถไปดำเนินการจดทะเบียนและตรวจสภาพรถด้วยตนเองตามขั้นตอนของกรมการขนส่งทางบก โดยมอบให้ผู้ขายเป็นผู้ดำเนินการแต่เพียงฝ่ายเดียว ซึ่งทำให้เกิดช่องว่างในการปลอมแปลงเอกสารจนอาจเป็นสาเหตุของการสวมทะเบียนรถได้เช่นกัน ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยผู้ซื้อควรดำเนินการโอนทะเบียนรถด้วยตนเอง และควรตรวจสอบหลักฐานเกี่ยวกับตัวรถโดยละเอียด ซึ่งสภาพรถต้องตรงตามที่ระบุในคู่มือจดทะเบียน หรือหากมีการแก้ไขดัดแปลงสภาพรถต้องมีเอกสารหลักฐานระบุชัดเจน ทั้งนี้สามารถขอหลักฐานทะเบียนรถจากเจ้าของรถหรือผู้ขายมาขอตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นที่สำนักงานขนส่งจังหวัดหรือสำนักงานขนส่งสาขา และเพื่อเพิ่มความมั่นใจยิ่งขึ้นสามารถนำรถเข้ามาตรวจสอบความถูกต้อง ณ สำนักงานขนส่งจังหวัดหรือสำนักงานขนส่งสาขาที่รถนั้นจดทะเบียนไว้ หากผลการตรวจสอบถูกต้องจึงค่อยดำเนินการซื้อขายรถต่อไป โดยกรมการขนส่งทางบกได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้เข้มงวดกวดขันการตรวจสภาพรถตามรายการที่กำหนดทุกคัน เพื่อป้องกันไม่ให้รถผิดกฎหมายดำเนินการทางทะเบียนได้โดยเด็ดขาด ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจพบจะมีการระงับการดำเนินการทางทะเบียนที่ไม่ถูกต้องทันที และหากประชาชนพบเห็นรถต้องสงสัยสามารถแจ้งข้อมูลมายังกรมการขนส่งทางบก หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อตรวจสอบและคุ้มครองสิทธิตามกฎหมาย และป้องกันการตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพได้อย่างทันท่วงที อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด(ปช.ส.ขนส่งรายงาน)นสพ.แม่เมยโพสต์ออนไลน์นำเสนอข่าวทั่วโลกเข้าไปดูข่าวได้ที่มือถือของท่านได้ที่...www.news-mahachon.com