รูปภาพประกอบ |
ท่าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล (ผบ.ตร.) ได้มาตรวจเยี่ยม สภ.นครชุม และโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน จ.พิษณุโลก เดินหน้าพัฒนาคุณภาพชีวิตตำรวจ ยกงานโรงพักฟันเฟืองหลักจักรสำคัญดูแลประชาชน กำชับเบี้ยเลี้ยงห้ามตกหล่น เปิดแนวทางรับทหารเกณฑ์เป็นนายสิบ ชี้แก้ปัญหากำลังพลขาดแคลน ย้ำตำรวจเข้าเวรแทนครูไม่ได้ พร้อมเป็นที่ปรึกษา วางระบบดูแลความปลอดภัย เล็งอัปเกรดครู ตชด.รับวุฒิ ป.ตรี เพิ่มศักยภาพ ตามข่าว
.
ที่สภ.นครชุม อ.นครไทย จังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2567 เวลา 09.00 น.ผู้สื่อข่าว ศูนย์ข่าวภาคเหนือ ตอนล่าง ได้รายงานเข้ามาว่า ท่าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้เดินทางไปยัง จ.พิษณุโลก เพื่อทำการตรวจเยี่ยมให้กำลังใจต่อผู้บังคับบัญชา สภ.นครชุม อ.นครไทย เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ สอบถามถึงสภาพการทำงาน เป็นแนวทางในการช่วยแก้ไขข้อขัดข้องต่าง ๆ เพื่อให้การทำงานบริการดูแลพี่น้องประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อให้ ตำรวจมีขวัญกำลังใจที่ดี โดยมี ท่าน พล.ต.ท.กิตติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 (ผบช.ภ.6 ) , ท่าน พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.6, ท่าน พล.ต.ต.นิคม เครือนพรัตน์ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก และข้าราชการตำรวจในพื้นที่ให้การต้อนรับ และร่วมพูดคุย แลกเปลี่ยน รับฟังนโยบายจากท่าน (ผบ.ตร.) ด้วยบรรยากาศเป็นกันเอง ท่าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ฯ ได้รับฟังรายงานการปฏิบัติหน้าที่ของ สภ.นครชุม ซึ่งเป็นโรงพักขนาดเล็ก มี พ.ต.ท.สุรศิลป์ สมศรี เป็นสารวัตรหัวหน้าสถานี โดยมีกำลังพล 24 นาย จากอัตราที่อนุญาต 37 นาย ดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยให้ประชาชนในพื้นที่ชุมชนหมู่บ้าน หน่วยงานราชการต่าง ๆ พื้นที่อุทยานแห่งชาติชาติตระการ พื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าภูขัด โดย ผบ.ตร.ได้สอบถามถึงจำนวนสถานศึกษาในพื้นที่ ซึ่งพบว่ามีโรงเรียน 9 แห่ง ทั้งนี้ ผบ.ตร.ได้มอบเงินเพื่อให้ตำรวจ สภ.นครชุม นำไปใช้ทำงาน และจัดเลี้ยงปีใหม่แก่ตำรวจและครอบครัวตำรวจในโรงพักด้วย
.
ท่าน (ผบ.ตร.) ได้กล่าวกับคนข่าวว่า สถานีตำรวจ หรือโรงพัก
ถือเป็นฟันเฟืองหลักจักรสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน เป็นหน่วยงานแขนขาที่สำคัญที่ต้องให้ความสำคัญ ตนสั่งการกำชับทั่วประเทศให้ดูแลกำลังพลในโรงพัก ให้มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่อย่างปลอดภัย มีทักษะการปฏิบัติหน้าที่ มีอุปกรณ์เครื่องมือที่พร้อมปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทันสมัย โดยเร็ว ๆ นี้ จะมีการส่งมอบปืนไฟฟ้าให้ทุกโรงพัก 1,484 สถานีทั่วประเทศไปใช้งาน พร้อมกำชับให้ทุกกองบัญชาการไปจัดหาอุปกรณ์ไม้ง่ามระงับคนคลุ้มคลั่งเตรียมไว้ใช้งานในโรงพักให้พร้อม เพราะเหตุการณ์คนคลุ้มคลั่งเกิดขึ้นได้เสมอ รวมทั้งควรสร้างทักษะให้ประชาชน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนมีความรู้เรื่องการเอาตัวรอดในเหตุวิกฤตต่าง ๆ โดยเฉพาะทักษะ หนี ซ่อน สู้ เพื่อความปลอดภัยเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน ยังกล่าวด้วยว่า
ที่สำคัญคือต้องดูแลขวัญกำลังใจของตำรวจในโรงพัก เบี้ยเลี้ยงห้ามตกหล่น ห้ามหาย ต้องไปดูไปตรวจสอบความเป็นอยู่ของผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อให้ตำรวจปฏิบัติงานอย่างมีขวัญกำลังใจมีค่าตอบแทนที่เหมาะสม โดยในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดูแลแก้ปัญหาในเชิงนโยบาย ซึ่งล่าสุดได้ทำโครงการ “ธนาคารตำรวจ” เป็นโครงการทำแหล่งปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากธนาคารไทยพาณิชย์ โดยมีวัตถุประสงค์ช่วยแก้ปัญหาหนี้สินที่พอกพูนของตำรวจช่วยให้ตำรวจ และครอบครัวตำรวจมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อคุณภาพการทำงานที่ดี
.
ท่าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ฯ กล่าวด้วยว่า ตำรวจมีปัญหาเรื่องกำลังพลที่ไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะงานในโรงพัก ในปีนี้ได้เปิดรับนักเรียนนายสิบตำรวจ 5,000 นาย เป็นกำลังพลใหม่เข้ามาเสริมการปฏิบัติงานในโรงพัก แต่กลุ่มนี้ต้องไปเรียนและฝึกระยะเวลา 1 ปี ครึ่ง จึงจะพร้อมออกมาปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งหลังจากช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงทำให้งดเว้นการเปิดรับนักเรียนนายสิบมาช่วงหนึ่ง ส่งผลให้กำลังพลตำรวจโรงพัก โดยเฉพาะในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล , ตำรวจภูธรภาค 1 , ภาค 2 และภาค 7 ขาดแคลน มีอัตราการครองตำแหน่งแค่ 40% เท่านั้น ขณะที่ประชากรในพื้นที่มีเพิ่มขึ้น ดังนั้น ปีนี้มีแนวทางในการรับทหารเกณฑ์ซึ่งปลดประจำการแล้วเข้ามาเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจในสัดส่วน 10% ซึ่งกลุ่มนี้จะช่วยร่นระยะเวลาในการฝึก ทำให้สามารถผลิตตำรวจที่มีทักษะความพร้อมออกมาปฏิบัติหน้าที่ในโรงพักได้เร็วขึ้น และลดการโยกย้ายกลับภูมิลำเนาเพราะกลุ่มนี้เน้นการรับทหารเกณฑ์จากคนพื้นที่
.
ท่าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ฯ ยังกล่าวถึงกรณีที่กระทรวงศึกษาธิการทำหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ส่งกำลังตำรวจเข้าไปรักษาความปลอดภัยในโรงเรียนแทนครูเวร ว่า เรื่องนี้ตนได้มอบหมาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.ด้านป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ไปดูแล้ว ทั้งนี้ หน้าที่ของตำรวจคือการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนทุกคน เราคงไม่สามารถเข้าไปดูแลหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเป็นพิเศษได้ ซึ่งการดูแลความปลอดภัยโรงเรียนนั้น ตำรวจเราจะเข้าเป็นช่วยดูในลักษณะของการให้คำปรึกษาด้านการดูแลความปลอดภัย โดยต้องร่วมมือกับโรงเรียน อาสาสมัคร อปพร. ภาคสังคมในการช่วยกันดูแล โดยการให้คำปรึกษาอาจเป็นเรื่องการวางระบบการรักษาความปลอดภัย วางระบบกล้องวงจรปิด การประสานงานเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงเรียน เพิ่มความถี่ในการออกตรวจ ไม่ใช่ให้ตำรวจเข้าไปทำหน้าที่แทน
.
ต่อมาท่าน ผบ.ตร. และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนอาทรอุทิศ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก โดย ผบ.ตร. ได้มอบของใช้จำเป็น และเงินเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ครู ตชด. และบุคลากรใน รร.ตชด.อาทรอุทิศ ก่อนที่จะไปเยี่ยมเยียนนักเรียนในโรงเรียน ตชด.แห่งนี้ ซึ่งมีอยู่ 44 คน โดย ผบ.ตร.ได้เลี้ยงอาหารกลางวัน เมนูข้าวหมูแดง และร่วมตักอาหารใส่ถาดหลุม และเสิร์ฟอาหารให้แก่เด็ก ๆ ด้วยตัวเอง สร้างความตื่นเต้น เรียกรอยยิ้มสร้างความสุข ให้แก่เด็ก ๆ อย่างมาก โดย ผบ.ตร.ได้มอบเงินเพื่อไว้จัดเลี้ยงไอศครีมแก่เด็ก ๆ ในโรงเรียน ตชด.ด้วย
. ท่าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ฯ ได้ตรวจเยี่ยมดูการจัดห้องเรียน ห้องพยาบาล ศูนย์ดิจิทัลชุมชน และพื้นที่แปลงเกษตรภายในโรงเรียน ตชด. ได้รับฟังแนวทางการเรียนการสอน การพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กนักเรียนและชุมชนโดยรอบ ก่อนร่วมรับประทานอาหารกลางวัน พูดคุย รับฟัง แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ร่วมกับตำรวจภาค 6 และคณะครู ตชด. อย่างเป็นกันเอง
. ท่าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ฯ กล่าวถึงแนวคิดการพัฒนาครู ตชด.ให้มีประสิทธิภาพ โดยจะไปศึกษาแก้ไขระเบียบให้สามารถรับผู้มีวุฒิปริญญาตรีจากบุคคลภาคนอกเข้ามาเป็นครู ตชด.ได้ เพื่อยกระดับคุณภาพของครู ตชด. และโรงเรียน ตชด.ซึ่งมี 222 แห่งทั่วประเทศดังกล่าวตามข่าว
(ปอร์ คุ้มพระลอ – รายงาน) นสพข่าวอาชญากรรมออนไลน์ทั่วโลกนำเสนอข่าวเข้าไปดูข่าวได้ที่...www.maemoeipost.com